สำหรับวงดนตรีแล้ว เครื่องขยายเสียงเฉพาะสำหรับวงดนตรีเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมาก หลายๆงานทางเจ้าภาพอาจสงสัยว่า ทำไมจะต้องมีค่าใช้จ่ายสำหรับเช่าเครื่องขยายเสียงเพิ่มเติม และมันมีความสำคัญอย่างไรกับงาน ผมพอจะสรุปให้ได้ดังนี้ครับ
1. เครื่องขยายเสียงภายในห้องจัดเลี้ยง ไม่เพียงพอต่อการใช้งานของวงดนตรี
โดยปกติแล้ว ห้องจัดเลี้ยงของโรงแรมหรือหอประชุมต่างๆ มักจะมีเครื่องขยายเสียงมาให้ แต่จะเป็นเครื่องขยายเสียงที่เพียงพอต่อการพูด หรือการเปิดแผ่นภายในงานเท่านั้น เช่น
- เครื่องขยายเสียง ไม่มีช่องสำหรับให้เชื่อมต่ออุปกรณ์ดนตรีเลย จะมีเพียงไมค์ลอย 2-3 ตัว ซึ่งจะควบคุมเสียงผ่านห้อง control ของห้องจัดเลี้ยงเท่านั้น
- เครื่องขยายเสียง อาจจะมีช่องต่อสำหรับเครื่องดนตรี แต่ไม่มี Effect สำหรับเสียงร้อง ทำให้เสียงร้องออกมาฟังดูไม้กลมกล่อมอย่างที่ควรจะเป็น และในหลายๆสถานที่ (เกือบทุกที่) ไม่มีลำโพงมอนิเตอร์บนเวที ทำให้นักดนตรีแทบจะไม่ได้ยินเสียงตัวเองขณะเล่น ส่งผลให้เกิดความผิดพลาดในขณะเล่นขึ้นได้
ลำโพงมอนิเตอร์ (มุมซ้ายและขวาของภาพ) เพื่อการได้ยินเสียงที่ชัดเจนของนักดนตรีขณะเล่น
2. ช่างเทคนิคของสถานที่ ไม่มีความเชี่ยวชาญในการจัดงานกับระบบเสียงสำหรับวงดนตรี
ปัญหาอีกอย่างที่มักจะพบบ่อยคือ ช่างเทคนิคของสถานที่ ไม่มีความรู้ความเข้าใจในระบบเสียงเพียงพอ เนื่องจากในหลายๆสถานที่ ช่างเทคนิคจะต้องทำงานหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ระบบไฟ ระบบภาพ และอีกหลายๆอย่าง ในบางครั้งใกล้ถึงเวลางานแล้ว แต่ยังไม่มีเจ้าหน้าที่มาจัดการเครื่องเสียงให้ ซึ่งตรงนี้ เครื่องขยายเสียงที่ทางวงดนตรีจัดมาเอง จะมีช่างคุมเครื่องเสียงที่มีประสบการณ์ทางด้านนี้มาด้วย ทำให้การปรับแต่งเสียงออกมามีคุณภาพ
อุปกรณ์ปรับแต่งเสียงสำหรับวงดนตรีโดยเฉพาะ ทำให้คุณภาพเสียงออกมาสมบูรณ์เหมาะสมกับงาน
แต่ สำหรับงานเลี้ยงหรืองานแต่งงานที่ขนาดไม่ใหญ่มาก เช่น งาน Indoor ที่มีจำนวนแขกไม่เกิน 400 คน หรืองาน Outdoor ที่มีจำนวนแขกไม่เกิน 200 คน และเน้นไปทางเพลงฟังสบายมีจังหวะที่ไม่คึกคักมากนัก สามารถใช้ชุดเครื่องขยายเสียงที่ขนาดเล็กแต่มีคุณภาพสูงมากอย่าง Bose L1 ซึ่งจะมีอุปกรณ์ไม่มาก แต่ให้คุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยมและมีค่าใช้จ่ายที่ไม่สูงมากครับ
Bose L1 เครื่องขยายเสียงสำหรับวงดนตรีขนาดกระทัดรัด แต่ให้คุณภาพเสียงที่ยอดเยียม ใช้เพียง 1 ชุดก็เพียงพอสำหรับงานดนตรีขนาดเล็กจนถึงกลางได้สบายๆ
