1 สัปดาห์กับ Apple Music

Capture

หลังจากที่ apple เปิดตัว apple music บริการ streaming music เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2558 ที่ผ่านมา ผมก็อยากจะลองใช้กับเค้าบ้าง แต่ด้วยผมเอง ไม่ได้ใข้ iPhone และจะให้แบก ipad ติดตัวไปฟังเพลงก็คงไม่ใช่เรื่องสนุก  ถึงแม้ Apple จะประกาศว่า Android จะใช้ Apple Music ได้ภายในปีนี้ ซึ่งก็ยังไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ และมือถือที่ผมใช้อยู่ (Samsung Galaxy Note4) ช่องเสียบหูฟังค่อนข้างจะตื้น เมื่อใช้กับ jack หูฟังที่มีขนาดใหญ่หน่อย จะหลุดง่ายมากเมื่อใส่กระเป๋ากางเกงฟังเพลง คิดไปคิดมา ก็เลยลงทุนไปซื้อ iPod Touch Gen5 64 GB มาใช้ซะเลย (ความเจ็ดปวดมันอยู่ตรงที่ ซื้อมาใช้ได้แค่ 7 วัน Apple ประกาศออก Ipod Touch Gen ใหม่ ตกรุ่นอย่างรวดเร็ว เสียใจมาก TT)

iPod Touch ที่สอยมาเพื่อ Apple Music โดยเฉพาะ

iPod Touch ที่สอยมาเพื่อ Apple Music โดยเฉพาะ

Apple Music คืออะไร

ก่อนจะเล่าประสบการณ์ ขอเกริ่นให้ฟังก่อนครับว่า Apple Music (apple.com/th/music) เป็นบริการเช่าฟังเพลงแบบเสียค่าบริการรายเดือนของแอปเปิ้ล เราสามารถกดฟังเพลงไหนก็ได้เกือบทั้ง iTunes Store (ปัจจุบันยังไม่มีเพลงของ Grammy (ตอนนี้มีเพลงของ Grammy แล้วครับ), RS และเพลงอีกหลายๆเพลง เช่น เพลงของ The Beatles, Phill Collins) อย่างเช่นการฟังเพลงสามารถฟังได้ทั้งแบบสตรีมมิ่งและแบบดาวน์โหลดมาเก็บไว้ในเครื่อง ถ้ายังจ่ายเงินค่าบริการายเดือนก็ยังสามารถกดฟังเพลงแบบสตรีมมิ่งและฟังเพลงที่เราดาวน์โหลดมาได้เรื่อย ๆ ถ้าหยุดจ่ายเงินเราก็จะเข้าไปฟังเพลงใน Apple Music ไม่ได้รวมถึงเพลงที่ดาวน์โหลดมาแล้วก็ไม่สามารถฟังได้เช่นกัน

ตามที่แอปเปิ้ลประกาศค่าบริการ Apple Music เดือนละ $4.99 สำหรับการใช้บริการแบบคนเดียว ตกเดือนละ 170 บาท (ช่วงนี้ทดลองใช้ฟรี 3 เดือน) นับว่าถูกมากๆ ราคานี้กินปุฟเฟต์ยังไม่ได้เลยครับ

หลังจากใช้มา 1 สัปดาห์ ก็ขอเล่าประสบการณ์ในการใช้งานซักหน่อยครับ

  • มีเพลงให้ฟังเยอะมากจริงๆ  สนุกในการเลือกฟังเพลงมากๆ อัลบั้มเพลงเก่าๆที่เคยฟังสมัยยังเป็นเทป จนลืมไปแล้วว่าเคยชอบแค่ไหน ก็กลับมา search หาฟังใน Apple Music เพลินเลย (ตอนนี้มีเพลงของค่ายคีตามาแล้วด้วย นึกถึงสมัยยังเป็นเด็กน้อย 555)
อัลบั้ม My Name is Joe ที่ไม่ได้ฟังมานานมาก

อัลบั้ม My Name is Joe ที่ไม่ได้ฟังมานานมาก

  • มี Playlist เจ๋งๆที่ Apple Music เลือกให้เราตามความชอบของเรา (ที่เรากำหนดไว้ตอนใช้งานครั้งแรก) เหมือนเป็นการเปิดโลกทัศน์ใหม่ๆให้เราเลย บางวงก็เพิ่งเคยรู้จักจาก Playlist นี่แหละ จนต้องไปหาเพลงของศิลปินนั้นๆมาฟังเพิ่ม
Get Your Vitamin B3 เป็น playlist ที่รวมเพลงที่เล่นด้วย Hammond B3

Get Your Vitamin B3 เป็น playlist ที่รวมเพลงที่เล่นด้วย Hammond B3 ชื่อ Playlist เก๋มาก

  • ถ้าไม่นับเพลงของ Grammy, RS ที่ยังไม่มีใน Apple Music บางศิลปินก็มีเพลงไม่ครบ (มีแต่เพลงดังๆ) เช่น Soul After Six, Pru, Ornaree และอีกหลายๆคน น่าเสียดาย น่าจะทำให้ครบๆเลย
  • Bug ยังเยอะและ UI ใช้งานยากนิดหน่อย บางครั้งเราเลือกโหลด album, playlist มาไว้ในเครื่องแล้ว (Make Available Offline) แต่กลับไม่ลงมาด้วย หวังว่าพอหมดช่วงใช้ฟรี 3 เดือน จะได้รับการแก้ไขทั้งหมดนะ

สรุปว่า Apple Music ทำให้ผมกลับมาฟังเพลงมากขึ้นกว่าเดิมมาก เพราะมันสะดวกในการเลือกเพลง หาเพลงใหม่ๆแปลกๆมาฟัง จนตอนนี้ต้องมี ipod touch และหูฟังติดตัวไปด้วยทุกที่ รวมถึงซื้อลำโพง bluetooth มาไว้ฟังที่บ้าน นับว่าการจ่ายเงินแค่เดือนละร้อยกว่าบาท (ที่กินข้าวในห้างมื้อนึงคนเดียวยังแทบไม่ได้เลย) เป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามากๆ แถมยังเป็นการอุดหนุนศิลปินด้วย คุ้มสุดๆ แนะนำให้ลองใช้กันครับ


 

ปล. มีเรื่องเล่าที่ชวนหงุดหงิด ในวันที่ไปซื้อ ipod touch ที่ iStudio สาขานึง

ผม : นี่ตั้งใจซื้อมาใช้ Apple Music โดยเฉพาะเลยนะ

พนักงาน : ผมนี่… ยังคิดไม่ตกเลยครับว่า จะสมัครดีมั้ย เดือนละตั้งร้อยกว่าบาทแน่ะ

ผม : ร้อยกว่าบาทเดี๋ยวนี้กินแมคยังแทบไม่ได้เลยนะครับ

พนักงาน : ก็ปกติผมโหลดบิท โหลด 4share น่ะครับ

ผม : (โห งกแล้วยังหน้าด้านอีกนะเมิง)

ถ้าพอจะสำนึกได้บ้างว่า เพลงไม่ใช่ของฟรี ศิลปินและทีมงานต้องแ_กข้าวเหมือนกัน ก็ไม่น่าจะตัดสินใจยากหรอกนะ

 

No Comments

(Required)
(Required, will not be published)

This blog is kept spam free by WP-SpamFree.