เส้นทางสู่หูฟัง Custom In Ear Monitor ตอนที่ 3 – เมื่อหูฟังมาถึงมือ

26/03/2013 08:41 Blog

เมื่อวันที่ 16 มีนาคม ที่ผ่านมา ทาง UM Thai ได้โทรมาแจ้งว่า CIEM ที่สั่งเอาไว้ได้ของแล้ว นับจากวันที่ส่งไปทำ (16 มกราคม) ก็เป็นเวลา 2 เดือนพอดี (ปกติแล้วจะใช้เวลาประมาณ 1 เดือนนิดๆ แต่ช่วงที่ส่งไป Lab UM ที่จีน หยุดตรุษจีนนานมากๆ (1-16 กพ.) เลยทำให้ล็อตนี้ล่าช้า) หน้าตาก็เป็นแบบในรูปครับ

CIEM ของผม

CIEM ของผม

ข้างขวา

ข้างขวา

ข้างซ้าย

ข้างซ้าย

สีเป็นไปตามที่สั่งไว้ครับ หูฝั่งซ้ายน้ำเงิน หูฝั่งขวาแดง ส่วน faceplate ที่สั่งไว้ว่าเป็นสีดำโปร่งแสง ดูจากของจริงแล้วเหมือนกับไม่เป็นสีดำเท่าไหร่ แต่พอใส่ไปแล้ว ก็เห็นเป็นสีดำตามที่ต้องการครับ

แรกฟัง

สัมผัสการใส่ครั้งแรก ใส่ไม่ยากอย่างที่เคยได้ยินมาครับ เพียงแค่ทำตามคู่มือ คือหันด้านขั้าวออกด้านหน้า กดหูฟังเข้ารูหูและหมุนขึ้น หูฟังก็จะแนบสนิทกับใบหู (ความรู้สึกเหมือนถูกดูดเข้าไปในรูหู) รู้สึกว่าแน่นเล็กน้อย แต่เก็บเสียงรอบข้างได้ดีมากๆ อาจจะดีเกินไปด้วยซ้ำ เพราะแทบไม่ได้ยินเสียงรอบข้างเลย ต้องใช้ความระมัดระวังมากขึ้นเมื่อใช้งานในที่ชุมชนครับ

ผมทดลองฟัง CIEM ของผม กับสาย Nibiru V3 ผ่าน ipod touch gen4 แว้บแรกที่รู้สึกได้คือ เสียงมันอื้ออึงค่อนข้างมาก เบสเยอะและบวม เลยลอง burn ทิ้งเอาไว้ประมาณ 15 ชั่วโมง ลองฟังอีกครั้ง เสียงดูนิ่งขึ้น เบสไม่บวมเหมือนตอนแรก เสียงร้องชัดขึ้น โดยรวมโทนเสียงประมาณเดียวกับ TF10 แต่ชัดกว่าและเบสมากกว่า ปัญหาคือ เบสยังคงมากเกินไป คงเป็นเพราะยัง burn ไม่พอ (ตอนแรกคิดว่าแค่ส่งไป Remold ไม่ได้เพิ่ม Driver ไม่น่าจะต้อง burn แต่สุดท้ายแล้วก็คงต้อง burn อยู่ดี) และบุคลิกของสาย Nibiru V3 ที่เน้นการฟังสนุกสนาน เบสจึงเยอะเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ในตรงนี้ผมว่าจะลองหาสายอื่นที่เบสน้อยกว่านี้มาลองดูครับ

สรุป

นับว่าเป็นไปตามความต้องการพอสมควรครับสำหรับ CIEM คู่แรกในชีวิต เก็บเสียงได้ดีเยี่ยม ใส่ได้ไม่ยากและพอดีกับใบหู (ถ้าไม่พอดีต้องส่งไป refit) สามารถใช้ได้ทั้งฟังเพลงทั่วไปและเป็น monitor สำหรับเล่นบนเวที ถ้าเทียบประสิทธิภาพ กับราคาที่จ่ายไป ผมถือว่า คุ้มค่ามากพอครับ

No Comments

(Required)
(Required, will not be published)

This blog is kept spam free by WP-SpamFree.