อุปกรณ์ดนตรีสำหรับเล่นสดของผม

17/03/2010 21:26 Blog

อุปกรณ์ดนตรีของผม จะมีหลายชิ้นหน่อยครับ โดยจะเน้นไปที่ เสียงดี น้ำหนักเบา มาดูกันครับว่าแต่ละตัวคืออะไรบ้าง


Korg SV-1

Stage Piano สีสันสุดเจ็บตัวนี้ เดิมทีผมเล็งที่จะถอย Roland RD700GX แต่ติดด้วยขนาดที่ค่อนข้างใหญ่และน้ำหนักที่มากถึง 25 กิโล คนแรงน้อยอย่างผมเองคงไม่อยากจะแบกออกไปเล่นที่ไหนแน่ๆ พอดี Korg ออก Stage Piano ตัวนี้ออกมา พอได้ลองก็ค่อนข้างพอใจ ด้วยเสียง E.piano ที่ดีมาก touching ที่ให้ความรู้สึกที่ดี เล่นนานๆได้โดยที่ไม่ปวดข้อมือ (ผมจะเล่นพวกที่เล่นกับ semi weight นานๆไม่ได้ครับ จะปวดข้อมือมาก เพราะต้องเกร็งไม่ให้น้ำหนักเสียงมากเกินไป) น้ำหนักเพียง 17 กิโล และความยาวไม่มากเท่าไหร่ในรุ่น 73 คีย์ สามารถวางในกระโปรงท้ายรถเก๋งขนาดกลางได้สบายๆ

แต่ปัญหาของมันคือ เสียง Acoustic piano ออกเสียงกลางมากเกินไป มวลเสียงค่อนข้างน้อย ทำให้เวลาเล่นเพลง Ballade ไม่ค่อยเพราะ และยังไม่สามารถทำ Layer หรือ Split ใดๆได้เลย จึงเป็นที่มาของอุปกรณ์อีกตัวของผมครับ

Roland Sonic Cell

เจ้า Sound Module/Audio Interface/Audio Player ตัวนี้ มีเสียงเปียโนที่ดีทีเดียว (เป็นเสียงเดียวกับใน Roland RD700SX แต่มีแค่ 3 Layers) สามารถเสริมกำลังให้ Korg SV-1 ดูน่าสนใจมากขึ้น แถมความสามารถอย่าง Split และ Layer ก็ทำให้สามารถเล่นสดได้สนุกขึ้น (Split เบสไว้ทางซ้าย เปียโนอยู่ทางขวา) แถมตัวมันยังสามารถเล่นไฟล์เพลงจาก USB Drive ได้อีก (ผมจะใส่เพลงไว้จำนวนนึงสำหรับเปิดตอนช่วงเบรควง) และด้วยน้ำหนักที่เบามากๆ จึงคุ้มค่าที่จะเสียเวลาในการ setup อุปกรณ์อีกเล็กน้อยครับ

Audio In จาก Roland Sonic Cell

ผมต่อ Line Out จาก Roland Sonic Cell มาเข้าที่ Audio In ของ Korg SV-1 ตรงนี้จะสะดวกในการควบคุมเสียงมากกว่าต่อออกไปที่ Mixer โดยตรง และยังตัดปัญหากรณีที่เล่นร้านเล็กๆที่ mixer มีจำนวน channel ไม่พอได้อีกด้วย

ซ้าย – Roland EV-5 ขวา- M-audio Damper Pedal

Damper Pedal ใช้ของ M-audio ซึ่งตัวนี้ผมซื้อไว้นานแล้ว ถึงแม้ Korg SV-1 จะแถม Pedal มาด้วย แต่น้ำหนักมันเบามากๆ เวลาเล่นแล้วมันชอบกลิ้งไปมา เลยเอาตัวนี้มาใช้ดีกว่าครับ

Roland EV-5 ตัวนีก็มีไว้ใช้นานแล้ว จะใช้ควมคุม Layer ของ Roland Sonic Cell (เพราะที่ Korg SV-1 ไม่มี Controller ใดๆที่ส่งค่า MIDI ออกเลย) ตัวนี้ข้อเสียคือองศามันน้อยครับ เหยีบนิดนึงมันก็สุดแล้ว ที่มีดีที่น้ำหนักเบา เลยต้องทนใช้ต่อไป 555

ขาตั้งเปียโน ผมใช้ Roland V-Stand ที่เลือกใช้เพราะสวย (555+) และเมื่อพับเก็บแล้วมีขนาดเล็กดีพกพาง่าย (แต่น้ำหนักไม่ใช่น้อยครับ สิบโลนิดๆเลยทีเดียว)

MIDI out, Damper Pedal In และ Expression Pedal In

XLR out จาก Korg SV-1 เข้า Mixer

โดยรวมผมค่อนข้างพอใจกับอุปกรณ์ชุดนี้ครับ ถึงแม้รวมๆกันทั้งหมด อาจจะแพงกว่า Roland RD700GX ด้วยซ้ำ แต่มีดีกว่าที่น้ำหนักน้อยกว่ามากๆ (ถ้าเป็น RD700GX ผมคงไม่อยากจะยกออกไปเล่นที่ไหนเลย) เสียงก็จัดได้ว่าดี แต่การควบคุมจะไม่ค่อยอิสระเท่าไหร่เนื่องจาก Korg SV-1 มีความสามารถในการเป็น Controller ที่ต่ำมากๆๆ…

8 Comments

  • At 2010.03.18 04:11, Wit said:

    ขอบคุณมากครับที่มาเขียนเล่าให้ฟังกัน Korg ดูดีมาก แต่ก็มีข้อจำกัดเยอะเหมือนกันโดยเฉพาะยิ่งเมื่อมาเทียบกับ Roland RD-700SX/GX สิ่งนึงที่ผมชอบของ RD-700SX/GX แล้วก็มีใน Korg SV-1 ด้วยก็คือ output 2 คู่ ที่มีให้เลือกใช้ทั้ง 1/4″ unbalanced และ XLR balanced มันทำให้การ setup ยืดหยุ่นมากเลยทีเดียว และจากที่เขียนอธิบายมานี่ดูเหมือนว่าช่อง audio input ของ SV-1 จะมีประโยชน์มากเลยครับสำหรับการ expand ระบบ

    ดูแล้วเหมือนว่า Korg ก็เสี่ยงเหมือนกันที่เลือกจะทำ vintage piano แบบ retro ที่ไม่สนใจจะส่ง MIDI controller อื่นๆเลย ทำให้คิดไปถึงตัวใหม่ๆอย่าง Nord Piano ที่ก็มาทางเดียวกัน คือไม่ค่อยจะมีความเป็น controller เลย

    อย่างนี้แปลว่าคุณ Bank ก็ยังคงต้องคอยเปลี่ยน program จากปุ่มบน Sonic Cell อยู่ตลอดเลยสิครับ ?

    • At 2010.03.18 08:27, bankmodify said:

      ใช่แล้วครับคุณวิท เวลาจะเปลี่ยนเสียงหรือเปลี่ยนค่าใดๆบน Sonic Cell จะต้องกดที่ตัว Sonic Cell อย่างเดียวเลย แต่ผมเองจะเล่นเปียโนเป็นหลักตรงนี้เลยไม่เป็นปัญหามากเท่าไหร่ เพียงแต่ต้องนั่ง setup persormance mode ใน sonic cell ไว้ก่อน

      ผมว่า korg ตั้งใจจะให้ตัว SV-1 นี่เป็น vintage piano ที่มีจุดเด่นที่เสียง e.piano เป็นหลัก ส่วนเสียงอื่นๆนี่ให้มาแก้ขัดมากกว่า อย่างเช่นเสียง organ ถึงแม้จะโอเค มีให้เลือกหลายเสียง และมีภาค effect สำหรับ organ โดยเฉพาะ แต่การที่มันไม่มี draw bar ก็คงจะขัดใจมือ organ มากเหมือนกัน

      • At 2010.03.18 17:31, Wit said:

        ปัญหาเรื่อง Organ นี่แก้ง่ายมากครับ แค่ไปซื้อ Nord Electro 3 มาอีกตัวก็เรียบร้อย สีแดงเข้าชุดกับ SV-1 พอดีเลยด้วย เป็น waterfall key อีกต่างหาก เชื่อเถอะว่าถ้าถามพี่หมอจุ๊บก็คงได้คำตอบแบบเดียวกัน :p แต่ท่าทางรายนั้นจะเอาแน่กับ Electro3

        • At 2010.03.18 17:40, DrJoop said:

          จุดธูปเรียกก็มาคุยด้วย
          จริงๆผมว่าน่าจะเลือก Clavia Nord Electro 3 มากกว่าครับ จะขาดก็แค่ XLR output เท่านั้น แล้วต่อ direct เข้า soniccell เลย หรือเลือก Nord stage compact แล้วต่อแบบเดียวกันก็จะได้ทั้ง organ + piano + synth + external effects เสริมเข้าไปอีก

          • At 2010.03.18 17:50, Wit said:

            Nord Electro 3 เสียงก็น่าสนใจ มีทั้ง Organ และ E.piano ไม่แน่ใจว่ามันเป็น flash rom ที่เพิ่มเสียง a.piano ได้ด้วยหรือเปล่า แต่มันไม่ใช่ weighted key นี่ครับ คนเล่นเปียโนอาจจะไม่ปลื้ม แต่ยังไงซะ ผมว่าคุณแบ๊งค์ไปซื้อ Nord Electro3 มาเพิ่มได้เลยครับ 61key ก็ได้ แบกไปเล่นทีละ 2 ตัวเลย 🙂

            • At 2010.03.18 18:03, bankmodify said:

              Nord Electro 3 นี่จากที่ได้ดูๆใน youtube แล้ว ชอบเสียง + effect มากเลยนะครับ แต่ด้วยค่าตัวแปดหมื่นกว่าสำหรับ 73 คีย์ และคีย์ที่เป็น water fall เลยต้องระงับกิเสสไว้ก่อน 😛

              • At 2011.11.17 14:14, จอน นอนเล่น said:

                soniccell เป็นอะไรที่คุ้มมากครับ ผมซื้อต่อจากคุณแบ๊งมา
                ผมกลับไม่ชอบเสียงเปียโนของมัน ที่ว่ามาจาก700sx ขนาดตัว700sxเอง ผมยังไม่ชอบเลย เลยต้องจัดการ์ดมาใส่
                นอกจากเล่นสด ผมใช้ฟังเพลง เสียงดีใช้ได้เลย อัดเพลงก็พอได้นะครับ

                ตอนนี้ยังใช้อยู่เลยครับ

                ว่างๆเจอผมแถวๆซอยอารีย์ อย่าลืมทักทายกันนะครับ

                • At 2011.11.17 17:48, bankmodify said:

                  จะว่าไป อุปกรณ์ในนี้ทั้งหมด ผมขายไปหมดแล้วนะเนี่ย :p

                  (Required)
                  (Required, will not be published)

                  This blog is kept spam free by WP-SpamFree.